เว็บหวย ดูดวง ดวงชะตาราศี
รู้ทัน! โรคที่มากับฤดูหนาว หนาวนี้มีอะไรซ่อนอยู่ กับ 6 โรคอันตรายที่มักจะมาพร้อมกับหน้าหนาว

รู้ทัน! โรคที่มากับฤดูหนาว หนาวนี้มีอะไรซ่อนอยู่ กับ 6 โรคอันตรายที่มักจะมาพร้อมกับหน้าหนาว

ปก-หนาวนี้มีอะไรซ่อนอยู่

ย่างเข้าฤดูหนาว lottosod หลายคนคิดถึงช่วงเวลาแห่งความสุข แต่รู้หรือไม่ มันจะมีโรคที่มากับฤดูหนาว ตามควบคู่กันมาด้วยเสมอ สภาพอากาศเช่นนี้ จะทำให้ร่างกายป่วยได้ง่ายกว่าปกติ อากาศหนาวแบบนี้เอื้อต่อการอยู่รอด และแพร่กระจายของเชื้อไวรัส เด็ก ผู้สูงอายุจะต้องระมัดระวังเป็นพิเศษ

หนาวนี้มีอะไรซ่อนอยู่ เช็ค 6 โรคที่มากับฤดูหนาวต้องระวัง พร้อมวิธีรับมือ-ป้องกัน-รักษา “โรคอันตรายที่มากับอากาศหนาว”

มาทำความรู้จักกับ โรคที่มากับฤดูหนาว 6 โรคอันตรายที่มากับอากาศหนาว วันนี้ lottosod จะพาแฟนๆ มาเตรียมความพร้อมในการรับมือและป้องกันการเจ็บป่วย เสริมสร้างภูมิคุ้มกันให้ร่างกายแข็งแรงแต่เนิ่นๆ กับโรคต่างๆ มาดูกันว่า โรคที่พบบ่อยในช่วงหน้าหนาวที่ต้องระวังมีอะไรกันบ้าง

โรคไข้หวัด ยังไม่มีวัคซีนป้องกันโรคหวัด เนื่องจากมีเชื้อไวรัสหลายชนิด และส่วนใหญ่มักจะหายเอง หากเป็นไข้หวัดควรพักผ่อนให้มาก ๆ ดื่มน้ำ และเช็ดตัวบ่อย ๆ เพื่อระบายความร้อนในร่างกาย และรับประทานยาลดไข้ ยาแก้ไอ และยาลดน้ำมูก หากอาการยังไม่ดีขึ้นควรพบแพทย์ เพื่อเช็คอาการ

หมั่นดูแลรักษาสุขภาพ
หมั่นดูแลรักษาสุขภาพ

วิธีดูแลตัวเอง แม้อาการไข้หวัดธรรมดา จะคล้ายกับไข้หวัดใหญ่ แต่ข้อแตกต่างคือ ไข้หวัดธรรมดา จะมีอาการ คัดจมูก น้ำมูกไหล ไอจาม คันคอ จะไม่ค่อยมีอาการไข้ และปวดกล้ามเนื้อ การรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ โดยเฉพาะผักผลไม้ที่มีวิตามินซี ช่วยป้องกันไข้หวัดได้ ออกกำลังกายเป็นประจำ และพักผ่อนให้เพียงพอ

โรคไข้หวัดใหญ่ เป็นโรคติดเชื้อของระบบทางเดินหายใจอย่างเฉียบพลัน เชื้อต้นเหตุเป็นไวรัสที่เรียกว่า อินฟลูเอ็นซาไวรัส (Influenza virus) หรือไข้หวัดใหญ่ ซึ่งมีอยู่ 2 ชนิดคือ Influenza A และ B หากเป็นจะมีอาการหนาวสั่น ไข้ขึ้นสูง เจ็บคอ ปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ และปวดศีรษะอย่างรุนแรง อาจมีอาการคลื่นไส้และอาเจียนร่วมด้วย

วิธีดูแลตัวเองควรดื่มน้ำให้มาก ๆ เพื่อลดอุณหภูมิของร่างกาย เช็ดตัวบ่อย ๆ รับประทานยาตามอาการ หากรับประทานยาลดไข้แล้วอาการไม่ดีขึ้น ควรรีบพบแพทย์ทันที ถึงจะมีวัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่ แต่ต้องเข้ารับการฉีดทุกปี เนื่องจากไวรัสไข้หวัดใหญ่สายพันธุใหม่และร่างกายไม่มีภูมิคุ้มกันต่อไวรัสสายพันธุ์ใหม่

โรคที่มากับฤดูหนาว
โรคที่มากับฤดูหนาว

โรคปอดอักเสบหรือปอดบวม ภาวะปอดอักเสบเกิดจากเชื้อแบคทีเรีย หรือไว้รัสเข้าไปอยู่ตามถุงลม ทำให้มีหนองและสารน้ำในถุงลม จนเนื้อบริเวณปอดไม่สามารถรับออกซิเจนได้ตามปกติ มีอาการไอ คัดจมูก จาม และมีเสมหะมาก มีไข้สูง หนาวสั่น แน่นหน้าอก หายใจไม่ออก อาจทำให้เสียชีวิตได้ในที่สุด พบบ่อยในกลุ่มผู้สูงอายุ และเด็กเล็ก

วิธีดูแลตัวเองหากรู้สึกว่ามีอาการคล้ายเป็นปอดบวม ควรรีบพบแพทย์ทันที หากแพทย์วินิจฉัยว่ามีอาการปอดบวม จะได้รับยาปฏิชีวนะ ยาลดไข้ ยาละลายเสมหะ และยาขยายหลอดลม ต้องรีบรับการรักษาเพื่อป้องกันภาวะแทรกซ้อน ดื่มน้ำอุ่นให้มากๆ อยู่ในที่ ที่อากาศถ่ายเทสะดวก สำหรับเด็กเล็กควรฉีดวัคซีนป้องกันปอดบวม

โรคอุจจาระร่วงจากไวรัสโรต้า เป็นอีกโรคที่มากับฤดูหนาวที่ควรระวังระบาดมากสุดช่วงเดือนตุลาคม-กุมภาพันธ์ ของทุกปีโดยเชื้อจะเข้าสู่ร่างกายทางปาก พบบ่อยในเด็กอายุ 6-12 เดือน อาการของโรคจะมีไข้ ท้องเสียรุนแรงและอาเจียนอย่างหนัก บางรายเสียน้ำมากจนช็อกหรือเสียชีวิต

หนาวนี้มีอะไรซ่อนอยู่
หนาวนี้มีอะไรซ่อนอยู่

วิธีการรักษา ยังไม่มียารักษาโรคนี้โดยตรง จึงต้องรักษาตามอาการให้ดีขึ้น โดยควรจิบเกลือแร่บ่อย ๆ เพื่อป้องกันการขาดน้ำ หากผู้ป่วยไม่สามารถดื่มน้ำได้ จำเป็นต้องให้น้ำเกลือทางเส้นเลือดแทน มีวัคซีนป้องกันโรต้าไวรัส ซึ่งเป็นวัคซีนชนิดรับประทาน สามารถรับได้ตั้งแต่อายุ 2 เดือน วัคซีนจะทำให้ร่างกายมีภูมิคุ้มกันโรค และลดความรุนแรงลงได้

โรคหัดเยอรมัน (Rubella) เป็นโรคติดต่อที่เกิดจากเชื้อรูบีโอลาไวรัส มักระบาดช่วงปลายฤดูหนาวต่อกับฤดูร้อน มักพบในเด็กตั้งแต่อายุ 2 – 12 ขวบ ติดต่อกันได้ง่าย จากการไอ จาม รดกันโดยตรง อาการคล้ายไข้หวัดธรรมดาคือ น้ำมูกไหล ไอแห้ง ตาและจมูกแดง มีไข้สูง

วิธีดูแลตัวเอง สามารถฉีดวัคซีนรวมหัดเยอรมันและคางทูม จะช่วยป้องกันโรคหัดได้ โดยจะเริ่มฉีดตอนอายุ 9-12 เดือน และฉีดกระตุ้นเมื่ออายุ 6 ขวบ และยังไม่มียารักษาโดยตรง มีเพียงการรักษาตามอาการ เช่น รับประทานยาลดไข้ ดื่มน้ำมากๆ พักผ่อนให้เพียงพอ แต่หากมีภาวะแทรกซ้อน เช่น หายใจสั้น เจ็บหน้าอกขณะหายใจ ชัก ควรรีบพบแพทย์ทันที

โรคไข้อีสุกอีใส เกิดจากเชื้อไวรัส Varicella หรือ Human herpesvirus type 3 เชื้อตัวเดียวกับโรคงูสวัด ติดต่อได้โดยการสัมผัสถูกตุ่มน้ำโดยตรง มักระบาดช่วงเดือนมกราคม-มีนาคม มีระยะฟักตัวในร่างกาย 10 – 20 วัน พบมากในเด็กอายุ 5 – 15 ปี โดยเกิดกับผู้ที่ยังไม่เคยเป็นโรคนี้มาก่อน

เด็กน้อยพักผ่อนให้เพียงพอ
เด็กน้อยพักผ่อนให้เพียงพอ

วิธีดูแลตัวเอง ต้องรักษาตามอาการ เมื่อมีไข้ให้รับประทานยาลดไข้ ไม่ใช้ของร่วมกับผู้อื่น ไม่ควรแคะ แกะ เกา บริเวณตุ่ม เพราะจะทำให้เกิดการอักเสบ และเป็นแผลเป็นได้ โรคนี้ไม่ต้องพบแพทย์ อาการไม่รุนแรง ไม่มีมีโรคแทรกซ้อน ปัจจุบันมีวัคซีนป้องกันไข้สุกใส โดยฉีดได้ตั้งแต่เด็กอายุ 1 ปีขึ้นไป ผู้ใหญ่ที่ไม่เคยเป็น ก็สามารถฉีดวัคซีนเพื่อป้องกันได้เช่นกัน

ยังมีอีกอย่างที่ทุกคนมีโอกาสเป็น คือ อาการผิวหนังแห้ง ลอก และคัน เมื่ออากาศหนาว ความชื้นที่ผิวหนังจึงลดลง กลุ่มผู้ป่วยโรคภูมิแพ้ผิวหนังต้องระวังเป็นพิเศษ ป้องกันด้วยการไม่อาบน้ำนาน อาบน้ำด้วยสบู่อ่อนๆ ไม่ขัดผิว ไม่แช่น้ำอุ่นนาน หลังอาบน้ำควรทาโลชั่นขณะที่ผิวยังหมาดๆ ริมฝีปากแตกควรทาด้วยลิปมันเพื่อเพิ่มความชุ่มชื้น

โรคที่มากับหน้าหนาวสามารถทำให้เกิดปัญหากับสุขภาพได้มากมายทีเดียว แฟนๆจึงควรหมั่นดูแลรักษาสุขภาพให้แข็งแรงอยู่เสมอ ออกกำลังกายสม่ำเสมอ พักผ่อนให้เพียงพอ ช่วยลดโอกาสการเจ็บป่วย เป็นการป้องกันโรคที่คุ้มค่าที่สุด เมื่อมีสุขภาพที่ดี อย่าลืมเข้ามาหาเลขเด็ด แทงหวยออนไลน์ง่ายได้ที่เว็บหวยสดพลัส ติดตามบทความ เว็บหวยสด ไป “สวัสดี”

อ่านบทความอื่นๆ ของเว็บหวย 2019

Share:

Facebook
Twitter
Pinterest
LinkedIn

Table of Contents

On Key

Related Posts